1. คุณสมบัติทางเคมี: เมทิลเบนโซเอตค่อนข้างเสถียร แต่จะถูกไฮโดรไลซ์เพื่อสร้างกรดเบนโซอิกและเมทานอลเมื่อถูกความร้อนต่อหน้าด่างกัดกร่อน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อถูกความร้อนในท่อปิดผนึกที่อุณหภูมิ 380-400°C เป็นเวลา 8 ชั่วโมง เมื่อไพโรไลซ์บนตาข่ายโลหะร้อน จะเกิดเบนซีน ไบฟีนิล เมทิลฟีนิลเบนโซเอต ฯลฯ การเติมไฮโดรเจนที่ 10MPa และ 350°C จะสร้างโทลูอีน เมทิลเบนโซเอตผ่านปฏิกิริยาทรานส์เอสเตริฟิเคชันกับแอลกอฮอล์ปฐมภูมิเมื่อมีเอธานอลเอตโลหะอัลคาไล ตัวอย่างเช่น 94% ของปฏิกิริยากับเอทานอลที่อุณหภูมิห้องกลายเป็นเอทิลเบนโซเอต 84% ของปฏิกิริยากับโพรพานอลกลายเป็นโพรพิลเบนโซเอต ไม่มีปฏิกิริยาทรานส์เอสเตริฟิเคชันกับไอโซโพรพานอล เบนซิลแอลกอฮอล์เอสเตอร์และเอทิลีนไกลคอลใช้คลอโรฟอร์มเป็นตัวทำละลาย และเมื่อเติมโพแทสเซียมคาร์บอเนตจำนวนเล็กน้อยลงในกรดไหลย้อน ก็จะได้เอทิลีนไกลคอลเบนโซเอตและเอทิลีนไกลคอลเบนโซไฮโดรเอสเทอร์จำนวนเล็กน้อย เมทิลเบนโซเอตและกลีเซอรีนใช้ไพริดีนเป็นตัวทำละลาย เมื่อถูกความร้อนโดยมีโซเดียมเมทอกไซด์ ก็สามารถดำเนินการทรานส์เอสเตริฟิเคชั่นเพื่อให้ได้กลีเซอรีนเบนโซเอต
2. เมทิลเบนซิลแอลกอฮอล์ถูกไนเตรตด้วยกรดไนตริก (ความหนาแน่นสัมพัทธ์ 1.517) ที่อุณหภูมิห้องเพื่อให้ได้เมทิล 3-ไนโตรเบนโซเอตและเมทิล 4-ไนโตรเบนโซเอตในอัตราส่วน 2:1 การใช้ทอเรียมออกไซด์เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา มันจะทำปฏิกิริยากับแอมโมเนียที่อุณหภูมิ 450-480°C เพื่อผลิตเบนโซไนไตรล์ ให้ความร้อนกับฟอสฟอรัสเพนตะคลอไรด์ที่อุณหภูมิ 160-180°C เพื่อให้ได้เบนโซอิลคลอไรด์
3. เมทิลเบนโซเอตก่อตัวเป็นสารประกอบโมเลกุลที่เป็นผลึกกับอะลูมิเนียมไตรคลอไรด์และดีบุกคลอไรด์ และสร้างสารประกอบผลึกที่ขุยด้วยกรดฟอสฟอริก
4. ความมั่นคงและความมั่นคง
5. วัสดุที่เข้ากันไม่ได้, สารออกซิไดซ์อย่างแรง, ด่างแก่
6. อันตรายจากการเกิดพอลิเมอไรเซชัน ไม่มีการเกิดพอลิเมอไรเซชัน